อยากเก่งเหมือน โคบี้ ทำไงดี?
เจย์ วิลเลี่ยม ได้มาเผยเคล็ดลับ ความเก่งกาจ ของ โคบี้ ไบร์อั้น ให้เราได้รู้กันซะที แต่ก่อนจะพูดถึง โคบี้
ขอพูดถึง เจย์ วิลเลี่ยม ก่อนเผื่อน้องๆจะไม่ทัน
Jason David Williams อดีีดดราฟอันดับ 2 ของปี 2002 (อันดับแรกคือ เหย๋า หมิง)
ได้รับยกย่องว่านี่คือ อนาคต ของ ชิคาโก บลู แต่การด์สายแว้นส์ ก็ไปไม่สุด หยุดอยู่ริมถนน ด้วยอุบัติเหตุ มอไซค์คว่ำ จนต้องเลิกเล่นบาสก่อนเวลา (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเค้า) แต่ตอนนี้ได้งานเป็นนักวิเคราะห์เกมให้ ทีวีช่องนึง งานดี มีเงินใช้จ่าย สบายๆ
เจย์แกเล่าให้ฟังว่า
เค้าสักคำว่า “Believe” (ความเชื่อ) ไว้ที่ตัว
เพราะแม่เค้าบอกว่า “ถ้าลูกไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วใครจะเชท่อมั่นในตัวลูกละ?”
ด้วย “ความเชื่อ” ทำให้เค้า ซ้อมหนัก เทรนโหด จนสามารถเข้ามาถึง NBA (ดราฟอันดับ 2 ของปี 2002 เลยนะ ถือว่าไม่ธรรมดา)
มีอยู่เกมนึงเค้าต้องไปเยือน เลเกอร์ เกมเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม (ตอนนั้น เลเกอร์มี โคบี้ แอน โอนีล) นี่คือชุด แชมป์ปีก่อน
เจย์อยากชนะทีมชุดนี้ เค้าไปถึงสนามก่อนเวลา สี่ชั่วโมง เพื่อที่จะซ้อมชู้ตมากกว่า 400 ลูกลง ก่อนเกมจะเริ่มจริง ก่อนที่เค้าจะกลับห้องพัก มาอาบน้ำ เตรียมตัวแข่งตอนหนึ่งทุ่ม รู้ไหม เค้าเห็นใคร?
ใช่แล้ว โคบี้ ไบรอั้น ไงละ กำลังซ้อมอยู่ ซ้อมก่อนหน้าเค้ามาถึงสนาม ตอนบ่ายสาม และยังคงซ้อมอยู่ หลังจากเค้ากลับห้องพัก
โคบี้ ซ้อม เหมือน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้ทำ นอกจาก บาสเกตบอล เท่านั้น ไม่มีขี้เกียจ ไม่มีบ่น มาก่อน กลับทีหลัง ซ้อมทุกสเต๊ปที่ต้องใช้ในสนาม
จบเกมนั้น โคบี้ กดไป 40 แต้ม เค้ามีคำถามในใจว่า
“ทำไมเค้า (โคบี้) ถึงบ้าซ้อมซะขนาดนั้น ?”
ก่อนกลับบ้าน เค้าเลยไปคุยกับ โคบี้ ว่า มึงบ้าป่าว? แข่งเสร็จยังซ้อมต่อ โคบี้ ตอกกลับมาว่า
“ไม่สำคัญว่ามึงซ้อมมามากแค่ไหน เพราะกูจะซ้อมให้มากกว่ามึงยิ่งๆขึ้นไป”
เจย์ บอกต่อว่า นั่นเป็นแรงบรรดาลใจให้เค้ายิ่งพยายามซ้อมให้มากขึ้น เพื่อจะเอาชนะเค้า (โคบี้) แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง เพราะเจย์ รถคว่ำ จบอาชีพ ไปซะก่อน
ทีนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไม “มึงยังกากอยู่แบบนี้”
คลิปอ้างอิง
