ความกลัวทำให้สิ่งนั้นตัวใหญ่
ความกลัวทำให้สิ่งนั้นตัวใหญ่
ย้อนกลับไปสมัยผมยังเด็ก (ม.2) ฝึกหัดบาสเกตบอลใหม่ๆ สิ้นปีมีแข่งกีฬาสี ที่โรงเรียน
สีแดงของผมนับว่ามีฝีมือไม่ธรรมดา เพราะเรามีเซ็นเตอร์ร่างใหญ่, การด์จ่ายไวเป็นลิงลม, มีสามแต้มที่พอยิงได้!
สีฟ้าคือทีมเต็งหนึ่ง ที่เราต้องต่อสู้ด้วยในศึกแรกของรายการ พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งตั้งแต่ห้าตัวจริง ลามไปจนถึงม้านั่งสำรอง
เวลาทีมสีฟ้ามายืนประจันหน้ามันเหมือนกำแพงขนาดใหญ่ที่อาวุธใดใดก็ไม่สามารทำลายลงได้
ก่อนลงสนามผมขาสั่น ใจเต้นแรงจนจะทะลักออกมาจากอก ราวกับกำลังจะไปออกรบกับกองทัพที่ไม่มีวันเอาชนะได้
ความพ่ายแพ้ในนัดนี้อาจจะทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราหวังไว้ คือ เหรียญรางวัลสีทองๆ ที่ทุกชนิดกีฬา ต้องการมาครอบครอง
แต่ทันทีที่ลูกบาสเก็ตบอลลอยขึ้นบนอากาศ จากการโยนของกรรมการในสนาม วินาทีถัดจากนั้นก็ไม่มีเวลาให้กับความกลัว ความกังวลใดใดอีกต่อไป “เกมได้เริ่มขึ้นแล้ว”
ห้านาทีผ่านไป
ผมค้นพบว่า “ความกลัวก่อนลงสนามนั้น” ทำให้คู่ต่อสู้ดูน่าหวาดหวั่นเกินความจริงไปเยอะ เมื่อลงไปเผชิญหน้ากันปรากฏว่า “พวกเขาก็ไม่ได้เก่งกว่าเรามากมายแต่อย่างใด”
กลับเป็นทีมของเราเสียอีกที่คุมเกมไว้ได้ และยังขึ้นนำได้อีกด้วย แต่ด้วยความทรงจำที่ลางเลือน ผมจำไม่ได้แล้วว่า เราชนะหรือแพ้ (พอขึ้น ม.3 ผมถึงได้เหรียญทองมาห้อยคอ)
แต่ความรู้สึกคลี่คลายหลังลงสนาม และความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวนั่น ผมจำได้ไม่เคยลืม
“ความกลัวทำให้สิ่งนั้นตัวใหญ่ขึ้น ส่วนการเผชิญหน้ากับความกลัวทำให้เราตัวใหญ่กว่ามัน”
ด้วยรัก จากรุ่นพี่ ถึงรุ่นน้อง ที่รักบาสเกตบอล
@kittimon

